ถึงแม้ว่าปัจจุบันนี้จะมีการพัฒนา Ai ให้ฉลาดขึ้นมากเพียงใด แต่ก็ยังไม่ฉลาดพอที่จะเข้าใจ EGO หรืออารมณ์เชิงลึกและความเป็นอัตตาของมนุษย์ Facebook จึงมีแนวคิดที่จะพัฒนา AI ที่จะเรียนรู้และเข้าใจ EGO ของแต่ละคนขึ้น
ก่อนอื่นขออธิบายวิธีการพัฒนา AI ในปัจจุบันเสียก่อน ว่าส่วนใหญ่แล้ว AI จะเรียนรู้ผ่านมุมมองของบุคคลที่สาม ซึ่งหมายถึง AI เรียนรู้จากคำสั่งนักพัฒนาที่ป้อนให้ผ่านคอมพิวเตอร์ แต่การเรียนรู้ EGO ของมนุษย์นั้น เป็นการเรียนรู้จากมุมมองของบุคคลที่หนึ่ง เรียนรู้จากสิ่งรอบตัว ซึ่งมีความซับซ้อนสูงยากที่ Ai จะเข้าใจทั้งหมด
.
โดยนักวิทยาศาสตร์ของ Facebook กล่าวว่า AI จำเป็นต้องมีมาตรฐานใหม่ เพื่อให้ปัญญาประดิษฐ์ สามารถเรียนรู้จากมุมมองของบุคคลที่หนึ่งไม่ใช่มุมมองที่สามเช่นในอดีต และให้เข้าใจความความรู้สึกต่าง ๆ ของมนุษย์มากขึ้น ซึ่งอาจเป็นเรื่องที่ซับซ้อน อย่าว่าแต่ AI เลย แม้แต่มนุษย์ด้วยกันเอง ก็ยังไม่สามารถเข้าใจความเป็นอัตตาของกันและกันได้ทั้งหมดเลยจริงไม่ครับ
.
อย่างไรก็ตามโครงการนี้ Facebook ได้รวบรวมกลุ่มนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยชื่อดังและห้องปฏิบัติการทั้งหมด 13 แห่งจาก 9 ประเทศ เพื่อรวบรวมข้อมูลจำนวนมากสำหรับโครงการนี้ และยังมีทีมงานระดับโลกที่ได้รวบรวมวิดีโอในมุมมองบุคคลที่หนึ่งเป็นเวลา 2,200 ชั่วโมงจากผู้เข้าร่วมกว่า 700 คนที่ใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เพื่อใช้สอน AI นั้นเอง
.
เว็บผึ้งงานคิดเล่นๆว่า ในวันที่โครงการนี้สำเร็จ AI จะเป็นเสมือนที่ปรึกษาเราในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว เลขา การลงทุน สุขภาพ การเดินทาง AI เป็น Big Data ที่ให้คำปรึกษาแบบตรงไปตรงมา แบบไม่มี EGO เข้าใจอารมณ์มนุษย์มากขึ้นไม่ว่าจะเศร้า เหงา โกรธ อ้างว้าง ร้องไห้ อกหัก ฯลฯ ถึงตอนนั้น AI อาจเป็นเพื่อนกับมนุษย์ในทุกช่วงอายุและทุกด้าน แต่อย่างไรก็ตามอย่าปล่อยให้ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ลดน้อยถอยลงไปเลยนะครับ
.