Facebook กำลังลด Reach อย่างรุนแรง ในทุกเพจ ถึงตอนนี้คนทำเพจบนเฟซบุ๊ก อาจต้องเจอกับเหตุการณ์ที่ ยอดรับชมทั้ง Reach และ Impression ตกลงอย่างรวดเร็ว ขึ้นอยู่กับว่าใครจะตกมากตกน้อยเท่านั้น ซึ่ง บางเพจยอด Reach เฉลี่ยอาจตกลงไปเหลือ 50% จากของเดิมก่อนหน้านี้ หรือบางเพจตกลงไปเหลือเพียง 20% จากของเดิมก็มีมาแล้ว
เว็บผึ้งงานจะมาเล่าสู่กันฟังว่าเกิดจากสาเหตุใด ดังนี้
จุดเริ่มต้นของเรื่องราวนี้เกิดจากที่ "Facebook อยากเลียนแบบ TikTok" ในเรื่องของการแนะนำโพสต์แบบ TikTok นั้นเอง หากใครที่เล่น Tiktok จะเห็นว่าหน้าแรกเป็น For You ซึ่ง TikTok จะใช้ระบบ AI ในการแนะนำวิดีโอสั้น ที่เราน่าจะสนใจมาแสดงบนหน้า Feed ให้เลยอัตโนมัติ เฟซบุ๊ก จึงพัฒนา AI ตัวหนึ่งที่มีลักษณะทำงานคล้ายๆกัน โดยตั้งชื่อว่า "Discovery Engine" โดยจะทำให้เราได้เจอกับอะไรใหม่ๆ โดยถ้าเราเจอคำว่า Suggested for you นั่นแหละ เป็นโพสต์ที่มาจาก Discovery Engine Ai
ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้ จึงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้คนทำเพจบนเฟซบุ๊กจะต้องเจอกับ เหตุการณ์ที่ยอดรับชมทั้ง Reach และ Impression ตกลง อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้นั่นเอง
ทุกอย่างมี 2 ด้านเสมอ ก่อนอื่นเรามาดูข้อดีกัน ดังนี้
1. Ai ตัวนี้เอื้อและสนับสนุนคนสร้างคอนเทนต์เจ๋งๆ ที่เป็นโพสต์ที่ไวรัล จนติดเป็นโพสต์ Suggested ให้กับคนอื่นทั้งที่ติดตามและไม่ได้ติดตามทันที
2. เพจเล็กๆ ก็สามารถดังได้เพียงข้ามคืน หากคอนเทนต์นั้นดีจริง จนเกิดไวรัลติด Suggested
แล้วข้อเสียละเป็นอย่างไรบ้าง? ดังนี้
1. คนทำเพจต้องทำใจว่า ต่อให้จะเก่งแค่ไหน ก็เป็นไปได้ยากที่จะทำคอนเทนต์ให้เป็นไวรัลได้ทุกโพสต์
2. Suggested โพสต์ของเฟซบุ๊กจากการแนะนำโดย Ai ตัวนี้จะขึ้นมาเบียดโพสต์ที่เราติดตามในหน้า Feed ทำให้เห็นลดน้อยลงไปทันที
จากเดิมที่เราใช้เฟซบุ๊ก วันละ 5 นาที
เราจะเจอ โพสต์ที่เราติดตาม 3 นาที
โพสต์ของเพื่อน 1 นาที
โพสต์โฆษณา 1 นาที
3. Discovery Engine Ai จะส่ง Suggested และ Reels มาแทรก บนหน้า Feed ทำให้เราอาจจะเจอ
โพสต์ที่เราติดตาม 1 นาที
โพสต์ของเพื่อน 1 นาที
โพสต์โฆษณา 1 นาที
โพสต์ Suggested 1 นาที
โพสต์วิดีโอสั้น Reels 1 นาที
เรามาดูกันว่าเพจเล็กเพจใหญ่กระทบอย่างไรบ้าง?
โดยเว็บผึ้งงานจะขอแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม หลักๆดังนี้
1. เพจใหญ่ คือ เพจที่มีผู้ติดตามมากกว่า 5 แสนคนขึ้นไป และคนมีส่วนร่วมมาก ในหลาย ๆ โพสต์แบบ Organic
สำหรับกลุ่มนี้ มักเป็นโพสต์ที่คนมีส่วนร่วมมาก ยอด Reach ก็จะไปไกลในระดับหลายแสนถึง หลายล้าน Reach เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว แต่ถ้าวันใดฟอร์มตกในบางโพสต์ คนมีส่วนร่วมน้อย ก็จะทำให้ยอด Reach ลดน้อยลงกว่าเดิมมากขึ้นอย่างคาดไม่ถึงเช่นกัน ดังนั้นกลุ่มนี้จะมียอดสถิติแต่ละโพสต์ที่เหวี่ยงมากขึ้น โพสต์ที่ดีจะได้ยอดรับชมเยอะไปเลย โพสต์ที่ไม่ดีก็จะได้ยอดรับชมน้อยลงมาก ซึ่งแน่นอนว่าเพจใหญ่นี้ถึงแม้จะมีผู้ติดตามมาก แต่ถ้าผู้ติดตามเหล่านั้น ถูกซื้อมาแบบ Inorganic ก็อาจเกิดเหตุการณ์ที่คนติดตามเป็นล้าน แต่ทุกโพสต์มียอด Reach น้อยมากได้เช่นกัน
2. เพจที่มีคอนเทนต์ดี แต่เน้นคนติดตามเฉพาะกลุ่ม
สำหรับกลุ่มนี้ คือ เพจที่สร้างขึ้นเฉพาะกลุ่ม เช่น เพจเงินโบราณ เพจของสะสม เพจวิ่ง เพจภาพถ่าย เพจท่องเที่ยว เพจอาหาร เพจประวัติศาสตร์ เพจวิทยาศาสตร์ เพจกีฬา เพจแม่และเด็ก เพจหุ้น หรือเพจหนังสือ เป็นต้น จะได้รับผลกระทบอย่างหนักหน่วง และอาจดูเหมือนจะไม่ยุติธรรมเลยกับเพจในกลุ่มนี้ซะเท่าไหร่ เพราะเพจกลุ่มนี้จะเน้นสร้างโพสต์ที่มีลักษณะเฉพาะกลุ่ม ไม่ได้สร้างโพสต์ที่เน้นเป็นไวรัล ดังนั้นโพสต์ของเพจกลุ่มนี้จะมีโอกาสน้อยมากที่จะติด Suggested โพสต์ได้
3. เพจที่มีคอนเทนต์ไม่น่าสนใจ และไม่มีแฟนเพจเฉพาะกลุ่ม
สำหรับกลุ่มนี้ คือ เพจขายสินค้า เพจองค์กร เพจบริษัท เพจไดอารีส่วนตัว หรือเพจร้านอาหารเล็ก ๆ แทบจะถูกเหยียบให้จมดินเลยทีเดียว คาดการณ์ว่า 90% ของเพจกลุ่มนี้ จะมียอด Reach ที่ตกลงอย่างน่าใจหาย และทำเพจไปก็เหมือนพูดกับอากาศ ไม่มีใครดู เพราะโพสต์ของเพจกลุ่มนี้ ไม่มีทางที่จะไปติดใน Suggested โพสต์ และก็ยากที่จะไปเบียดกับคนอื่น ๆ ในหน้า Feed ได้นั่นเอง
ดังนั้นแล้ว ทุกเพจได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเพจเล็กหรือเพจใหญ่ ซึ่งเพจเล็กจะเสียเปรียบมากกว่าเพจใหญ่ เพราะจะเกิดได้ยากขึ้น และแน่นอนว่า Ai ตัวนี้จะทำเราจะสู่วิธีการแก้ปัญหา 2 ทางนี้ คือ
1. เลิกทำเพจเฟซบุ๊กไปเลย
2. ยอมจ่ายเงินบูสต์โพสต์เฟซบุ๊กมากขึ้น
เว็บผึ้งงานแนะนำว่าผู้ทำเพจควรกระจายคอนเทนต์สู่ช่องทางอื่น เพื่อกระจายความเสี่ยงและลดต้นทุนค่าโฆษณา เช่น สร้างเว็บบล็อก หรือ เว็บไซต์ของตนเอง เพื่อจัดทำ SEO ให้ติดหน้า 1 จะเป็นการลงทุนที่เห็นผลดีในระยะยาว และลดค่าโฆษณาบู๊ตโพสได้มหาศาล หรือสร้างคอนเทนต์ในแพลตฟอร์มอื่น ไปพร้อมๆกัน เป็นต้น เพราะในอนาคตเราไม่สามารถคาดคะเนได้ว่ารู้ว่าเฟซบุ๊กจะเป็นอย่างไร มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก จะบีบคนทำเพจอย่างไรให้เสียเงินซื้อโฆษณามากขึ้นด้วยวิธีใดต่อไป การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตลอดเวลา และมันก็จะไม่ได้หยุดนิ่งอย่างแน่นอน