ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Facebook มีการพัฒนาระบบอัลกอริทึ่มอยู่ตลอดเวลา พร้อมทั้งใส่เงื่อนไข กฏระเบียบต่างๆ เพื่อให้ผู้ใช้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ไม่ระเมิดความเป็นส่วนตัวของบุคคลอื่น รวมถึงการขายและโฆษณาที่ดูเกินจริง บางครั้งมีการลบโพสต์ โดนแจ้งเตือน และระงับบัญชีเลยก็มี ผู้ใช้จึงหลีกเลี่ยงคำว่า "ขาย" เพื่อไม่ให้ทาง Ai ของ Facebook ตรวจจับนั่นเอง ซึ่งจะมีผลต่อยอด Reach ในเพจลดลงอย่างเห็นได้ชัด
เว็บผึ้งงานได้รับข้อเสนอแนะมาจากทีมงาน Meta ประเทศไทย ที่ดูแลรับผิดชอบ Facebook โดยตรง ซึ่งอธิบาย 6 ประเด็นที่ผู้ใช้ Facebook คนไทยอาจเข้าใจผิด ดังนี้
1.การหลีกเลี่ยงคำว่า "ขาย" ด้วยการใช้คำว่า "Vาย" ไม่ได้ช่วยอะไร
คำอธิบายจาก Meta ประเทศไทย กล่าวว่า Facebook ไม่เคยต้องการปิดกั้นการซื้อ-ขาย สิ่งของในแพลทฟอร์ม ทุกคนสามารถ ซื้อ-ขาย กันได้ตามปกติ และการพิมพ์ว่า "ขาย" ตรงๆ ก็ไม่มีปัญหากับระบบใดๆ ทั้งสิ้น ดังนั้นไม่จำเป็นต้องเลี่ยงไปใช้คำว่า "Vาย" เพราะมันไม่ได้มีประโยชน์อะไร สิ่งที่ระบบของ Facebook ให้ความสำคัญที่สุด คือ ขายสินค้าอะไร สินค้าบางประเภทระบบจะลบโพสต์โดยอัตโนมัติ เช่น ครีมหน้าขาว, อาวุธ หรือ อาหารเสริมที่ไม่ได้รับการรับรองอย่างถูกต้อง สินค้าที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย และมีอันตรายต่อผู้บริโภค ระบบจะตรวจจับ และหลายครั้งจะลบโพสต์เองโดยอัตโนมัติ ดังนั้น ผู้ใช้ Facebook สามารถพิมพ์คำว่า ซื้อ-ขาย ได้ตามปกติ ไม่ต้องกังวลแต่อย่างใด ว่าจะโดนลบโพสต์ หรือว่าจะโดนปิดกั้นการมองเห็นยอดรีชต่างๆ
2) เขียนคำว่า "อย่าปิดกั้นการมองเห็น" หรือ "เปิดการมองเห็น" ไม่ได้ช่วยอะไร
บางเพจที่มีปัญหาเรื่องยอดรีชน้อยกว่าปกติ พยายามจะแก้ปัญหาด้วยการติดแฮชแทก ว่า #อย่าปิดกั้นการมองเห็น หรือ #เปิดการมองเห็น ทาง Meta ยืนยันว่า การติด # แบบนี้ ไม่ได้ช่วยเพิ่มการมองเห็นอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว
3) จริงหรือไม่? ที่การลงโพสต์แบบเขียนบทความ มีความเสี่ยงมากขึ้น
Meta อธิบายว่ามีการใช้ระบบ AI ในการคัดกรองคอนเทนต์ หรือ โพสต์ที่มีความสุ่มเสี่ยงจริง ซึ่งจะมี "ลิสต์คำต้องห้าม" บางคำที่อาจมีความเชื่อมโยงกับมิจฉาชีพ กลุ่ม Scammer หรือกลุ่มนักพนัน ที่ใช้แพลทฟอร์มเป็นเครื่องมือในการหากินอย่างไม่สุจริต ดังนั้นเพื่อการป้องกันภัยร้ายถ้าระบบตรวจพบเจอในบทความ ก็จะถูกมองว่าเป็นโพสต์เชิญชวนของมิจฉาชีพ หรือ กลุ่มการพนันทันที ซึ่งจะถูกลงโทษ Fraud and Deception (หลอกลวง ต้มตุ๋มเงินจากผู้อื่น) แต่หากเป็นบทความที่ไม่เข้าข่ายลิสต์คำต้องห้ามก็ไม่จำเป็นต้องกังวลใดๆ หรือถ้าหาก Facebook เข้าใจผิด จนเพจเราโดนลงโทษ ก็สามารถยื่นส่งคำอุทธรณ์มาให้ระบบพิจารณาได้เป็นเคสๆไป ถ้าหากอุทธรณ์ผ่าน บทลงโทษก็จะถูกยกเลิก
4) ให้ทำความเข้าใจระบบ Engagement Bait (ระบบปิดกั้นการมองเห็น) เสียใหม่
สิ่งที่ระบบของ Facebook จะตรวจจับและลดค่ารีชทันที ในกรณีที่มีการใช้ประโยคในลักษณะเชิญชวนให้คนมากดไลค์ กดติดตาม เพจของตัวเอง โดย Meta เชื่อว่า คอนเทนต์ที่ดี ผู้คนแชร์กันเอง โดยไม่ต้องเชิญชวน หากถ้ามีคำ หรือ ประโยค ที่เข้าข่าย Engagement Bait เช่น "ฝากกดไลค์ กดแชร์" หรือ "มาคอมเมนต์กันเยอะๆ" ระบบจะประเมินว่าเป็นการหลอกล่อให้คนมาติดตามคอนเทนต์โดยผิดปกติ และจะมีผลต่อยอดการปิดกั้นการมองเห็นโดยตรง
5) จงระมัดระวังการทำ Spam โดยไม่รู้ตัว
สิ่งที่ Facebook ให้ความสำคัญเป็นอย่างมากในปี 2024 คือการป้องกันการ Spam หรือ การพิมพ์ข้อความเดิมๆ ซ้ำๆ แบบที่ไม่มีความหมายใดๆ ตัวอย่างเช่น เจ้าของเพจบางคน เวลาตอบลูกเพจ จะคอมเมนต์แบบเดียวกัน แล้ว Copy-Paste ให้คนมาคอมเมนต์หลายๆ คน ด้วยข้อความเดียวกัน หรือไม่ก็ส่งอีโมจิสั้นๆ การกระทำลักษณะนี้ ระบบจะมองว่าเป็นการ Spam หรือพยายามสร้างจำนวนการสนทนาที่มากขึ้น ไม่ใช่การสนทนาทั่วไปของคนปกติ มีวิธีการแก้ไข คือ เจ้าของเพจ ถ้าจะตอบคนมาคอมเมนต์ ให้พิมพ์ตอบแบบให้มีความหมาย เป็นการสนทนากัน ไม่ใช่ก็อปปี้-วาง แบบง่ายๆ
6) การแปะลิงค์ไม่ลดยอดรีช แต่อ่านเสี่ยงโดน Flag
มีผู้คนจำนวนมากเข้าใจว่า การแปะลิงค์ ลงในสเตตัส จะทำให้ยอดรีชของโพสต์นั้นๆ ลดต่ำลงทันที Meta แจ้งว่าในข้อเท็จจริงแล้ว "ไม่เกี่ยวกัน" เราสามารถแปะลิงค์ได้ โดยจะไม่ได้รับผลกระทบถึงยอดการมองเห็นแต่อย่างใด แต่สิ่งที่ Facebook ในใจและจงระมัดระวัง คือ ต้องมั่นใจว่าลิงค์ที่แปะลงไปในสเตตัส เป็นลิงค์ที่ถูกต้อง และไม่นำพาคนอ่าน ไปสู่เว็บผิดกฎหมาย หรือ เว็บที่เกี่ยวข้องกับการพนัน ซึ่งถ้าหากเราลงลิงค์ที่มีความเสี่ยง มีโอกาสจะถูกบทลงโทษจากระบบของ Facebook หรือการให้ Red Flag และจะติด Restriction หรือคาดโทษไว้
เป็นอย่างไรบ้างค่ะ เชื่อว่าไขข้อข้องใจไปได้มากทีเดียวกับเกร็ดความรู้ที่จะทำให้เราเข้าใจระบบ Facebook มากขึ้น เว็บผึ้งงานหวังว่าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับผู้ประกอบการและผู้ใช้บัญชี Facebook ทุกคนเลยจ้า